WICE ปิดงบปี 2565 โชว์ศักยภาพบริหารต้นทุนดันกำไรสุทธิ
554 ล้านบาท เติบโต 3.4%
บอร์ดเคาะจ่ายปันผลหุ้นละ 0.44 บาท ขึ้น XD 8 มีนาคม 2566
นี้
‘บมจ. ไวส์ โลจิสติกส์ หรือ WICE’ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร ประกาศผลดำเนินงานในปี
65 มีกำไรสุทธิ 554
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% จากปริมาณการขนส่งเติบโตกว่า 10% และความสามารถบริหารจัดการต้นทุนค่าขนส่งร่วมกับบริษัทในเครือ
พร้อมทั้งรักษาอัตรากำไรสุทธิ 7.76%
ฟากบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.44 บาทต่อหุ้น
เตรียมขึ้น XD วันที่ 8 มีนาคม
2566 นี้
นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ
ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 554
ล้านบาท เติบโต 3.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้
535.53 ล้านบาท พร้อมทั้งสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิได้ไม่ต่ำกว่า 7.76% โดยบริษัทฯ สามารถบริหารเพิ่มอัตรากำไรสุทธิจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ
ด้วยกลยุทธ์ในการเพิ่มศักยภาพบริหารต้นทุนค่าขนส่งร่วมกับบริษัทในเครือพร้อมทั้งรักษาอัตรากำไร
ซึ่งจะดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวต่อเนื่องในปีนี้ด้วยเช่นกัน
ขณะที่รายได้รวมในปี 2565 ทำได้ 7,137
ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 7,671 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากค่าระวางเรือที่ลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งปีหลังปี
2565 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถเพิ่มปริมาณงานขนส่งและบริการที่เกี่ยวเนื่องแก่ลูกค้ากว่า
10% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีดีมานด์การขนส่งที่เพิ่มจากการขนส่งทางทะเล
(Sea Freight) อีกทั้งได้รับผลดีจากการที่จีนเปิดประเทศ ทำให้บริษัทฯ
สามารถขนส่งสินค้าผ่านด่านชายแดนได้เป็นปกติ นอกจากนี้ WICE ได้เพิ่มบริการขนส่งสินค้าไปยังประเทศกลุ่มลูกค้าหลักๆ
รวมถึงมีการขยายเส้นทางให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคอีกด้วย
“ปัญหาเรื่องค่าระวางเรือที่ลดลงไปเมื่อกลางปีก่อนเราเชื่อว่าคงไม่ลดลงเยอะกว่านี้
ประเมินว่าน่าจะถึงจุดที่ต่ำที่สุดไปแล้ว หลังจากนี้คาดว่าค่าระวางเรือจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส
2 ของปี 66 ถือว่าเป็นไปตามภาพรวมอุตสาหกรรมที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 65 ถือว่ายังเติบโตได้ดี
ประกอบกับการที่บริษัทฯ มีการบริหารต้นทุนค่าขนส่งร่วมกับบริษัทในเครือให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ทำให้ยังคงสามารถรักษาอัตราการทำกำไรให้อยู่ในเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายชูเดช กล่าว
พร้อมกันนี้
เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่
21
กุมภาพันธ์ 2566
มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานในปี 2565 เป็นเงินสดในอัตรา
0.44 บาทต่อหุ้น โดยจะกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม
(Record date) วันที่ 9 มีนาคม 2566 พร้อมกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 8 มีนาคม 2566
และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 15 พฤษภาคม 2566
นี้
นายชูเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า
สำหรับความร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัท เอ็น-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ จำกัด
เมื่อปลายปีที่ผ่านมาเพื่อทำตลาดออนไลน์ในรูปแบบอีดิสทริบิวเตอร์ โดยใช้เทคโนโลยี
และดิจิทัลมาร์เกตติ้งในการบริหารการขายสินค้า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการนำเสนอบริการใหม่แก่ลูกค้า
และยังให้บริการขนส่งสินค้าจากประเทศต้นทางไปยังกลุ่มลูกค้าในประเทศ รวมถึงมีการจัดการคลังสินค้าแบบพร้อมส่ง
(Fulfillment Center) คาดว่าในปีนี้จะเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้บริษัทฯ ราว 100
ล้านบาท โดยจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ นอกจากเป็นการเพิ่มปริมาณงานให้บริษัทฯแล้ว
ยังเป็นการขยายฐานลูกค้าเดิมไปยังกลุ่ม B2B2C (Business-to-Business-to-Customer) ในอนาคตอีกด้วย
ขณะที่ความคืบหน้าความร่วมมือทางธุรกิจ
หลังจากที่ลงนาม MOU กับบริษัท
สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT ล่าสุด
บริษัทฯ ได้เริ่มเข้าไปปรับปรุงและพัฒนาที่ดินของกลุ่มสมบูรณ์ฯ
บริเวณโรงงานย่านถนนบางนา-ตราด กม.15 จังหวัดสมุทรปราการ นับเป็นโครงการนำร่องในการบริหารจัดการด้าน
Green Logistics Hub โดยจะพัฒนาเป็นคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าที่ทันสมัยในพื้นที่กรุงเทพฯ
และต่อยอดสู่การพัฒนาในจังหวัดระยองต่อไป ซึ่งจะใช้ศักยภาพของทั้งสองฝ่ายมาบริหารจัดการร่วมกัน
ทั้งนี้เพื่อการขยายธุรกิจคลังสินค้าและการให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร